• star

    การวัดระยะทางด้วยดาวแปรแสง

    เราไม่สามารถวัดระยะทางของกาแล็กซีโดยใช้วิธีแพรัลแล็กซ์ เนื่องจากกาแล็กซีอยู่ห่างจากโลกมาจนไม่สามารถสังเกตมุมแพรัลแล็กซ์ได้ (วิธีแพรัลแลกซ์ใช้กับดาวที่อยู่ห่างไม่เกิน 100 พาร์เซก) นักดาราศาสตร์ทำการวัดระยะทางของกาแล็กซี โดยใช้การเปรียบเทียบกำลังส่องสว่างของดาวแปรแสงแบบเซฟีด (Cepheid) และดาวแปรแสงแบบอาร์อาร์ไลแร (RR Lyrae) joker123 เนื่องจากดาวแปรแสงทั้งสองชนิดมีสมบัติเฉพาะตัว ซึ่งสามารถนำมาเปรียบเทียบกำลังส่องสว่างได้ โดยใช้หลักการเปรียบเทียบระยะทางกับกำลังส่องสว่างของเทียนไข ยกตัวอย่างเช่น เทียนไขเล่มหนึ่งมีกำลังส่องสว่างมาตราฐาน 1 แรงเทียน ถ้าเราอยู่ห่างจากเทียนไขเพิ่มขึ้น 2 เท่า กำลังส่องสว่างของเทียนไขก็จะลดลง 4 เท่าเป็นต้น หากเทียนไขมีกำลังส่องสว่างลดลงกี่เท่า เราก็สามารถคำนวณระยะทางของเทียนไขได้ โดยใช้กฏระยะทางผกผันยกกำลังสอง ดาวแปรแสงแบบเซฟีด และ RR Lyrae เป็นดาวที่มีคาบการเปลี่ยนแปลงความสว่างที่แน่นอน เนื่องจากกลไกของแรงโน้มถ่วงและแรงดันของแก๊สภายในดาว นักดาราศาสตร์พยายามใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ค้นหาดาวแปรแสงแบบเซฟีดในกาแล็กซี และดาวแปรแสงแบบ RR Lyrae ในกระจุกดาวทรงกลม เพื่อนำค่าโชติมาตรมาเปรียบเทียบเพื่อคำนวณหาระยะทาง โดยใช้สูตร m – M = 5 log d – 5 ดังตัวอย่างด้านล่าง m – M = 5 log d – 5โดยที่ m = โชติมาตรปรากฏM = โชติมาตรสัมบูรณ์d = ระยะห่างระหว่างโลกกับดาว มีหน่วยเป็น พาร์เซก สล็อต ตัวอย่างที่ 1: นักดาราศาสตร์สังเกตดาวแปรแสงแบบเซฟีดในกาแล็กซีแห่งหนึ่ง มีคาบการแปรแสง 34 วัน และมีโชติมาตรปรากฎ +23.0 นักดาราศาสตร์มีบันทึกในประวัติฐานข้อมูลว่า ดาวแปรแสงทีี่มีสมบัติเช่นนี้ที่เคยพบมีโชติมาตรสัมบูรณ์ -5.65 ดังนั้นจึงนำค่าโชติมาตรทั้งสองมาแทนค่าในสูตรหาระยะทางของกาแล็กซี ได้ดังนี้m – M = 5 log d – 5 ดังนั้น d = 10(m – M + 5)/5 พาร์เซก = 10(23 – -5.65 + 5)/5 พาร์เซก = 106.73 พาร์เซก…

    Comments Off on การวัดระยะทางด้วยดาวแปรแสง