
ดาวแปรแสงสว่างเซฟีด
ดาวแปรแสงสว่างเซฟีด จำพวก I หรือ ดาวเซฟีดแบบคลาสสิก (Type I Classical Cepheids) เป็นดาวแปรแสงสว่างพลเมืองที่ 1 ซึ่งเป็นดาวยักษ์ใหญ่สีเหลืองมีประเภทสเปกตรัมตอน F6 — K2 มีมวลมากมายว่ามวลพระอาทิตย์โดยประมาณ 4 ถึง 20 เท่าและก็มีกำลังส่องสว่างมากยิ่งกว่า 100,000 เท่าของกำลังส่องสว่างของดวงตะวัน เดี๋ยวนี้มีการศึกษาและทำการค้นพบดาวเซฟีดแบบคลาสสิกมากยิ่งกว่า 700ดวงในกาแล็กซีีกาแลคซี่ทางช้างเผือก รวมทั้งเจอในกาแล็กซีอื่นๆอีกหลายพันดวง แบบอย่างดาวเซฟีดแบบคลาสสิกเป็น ดาวเดลต้า เซฟิไอ (Delta Cephei) อยู่ในกรุ๊ปดาวเซฟิอัส มีคาบการเปลี่ยนแปลงแสงสว่างราว 5.4 วัน
ดาวแปรแสงสว่างเซฟีด จำพวก II (Type II W Virginis) เป็นดาวแปรแสงสว่างราษฎรที่ 2 แก่มากมาย แล้วก็มีกำลังส่องสว่างน้้อชูว่าดาวแปรแสงสว่างเซฟีด จำพวก I มีคาบการเปลี่ยนแปลงแสงสว่างระหว่าง 1 ถึง 50 วัน ufabet โดยธรรมดาจะมีความเป็นโลหะต่ำ แล้วก็มีมวลต่ำลงยิ่งกว่าดวงตะวันราวกึ่งหนึ่ง มีแอมพลิจูดของการเปลี่ยนค่าความสว่างระหว่าง 0.3ถึง 1.2 แบบอย่างดาวแปรแสงสว่างเซฟีด จำพวก II นี้เป็น ดาวดับเบิลยู เวอร์จินิส (W Virginis) มีคาบการเปลี่ยนแสงสว่างโดยประมาณ 10 ถึง 20 วัน
1.2 อาร์ อาร์ ไลรี (RR Lyrae) มีกลไกการเปลี่ยนแสงสว่างแล้วก็จังหวะการยุบขยายคล้ายกับดาวแปรแสงสว่างเซฟีด แต่ว่ามีความต่างตรงที่ดาวแปรแสงสว่างกลุ่มนี้แก่มากมาย มีมวลน้อย รวมทั้งมีความเป็นโลหะต่ำ ค่าความส่องสว่างสัมบูรณ์เฉลี่ยราวๆ 0.75หรือสว่างกว่าดวงตะวันราว 40 ถึง 50 เท่า มีคาบการเปลี่ยนแปลงแสงสว่างน้อยมาก ufabet โดยปกติมีคาบเพียงแค่1.5 ชั่วโมงถึง 24 ชั่วโมง มีประเภทเสปกตรัมระหว่างA7 — F5 ส่วนมากแล้วจะเจอได้ในกลุ่มดาวทรงกลมคาบการเปลี่ยนแปลงแสงสว่างของดาวแปรแสงสว่างกลุ่มนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับความสว่างสัมบูรณ์อย่างแจ่มแจ้ง ด้วยเหตุผลดังกล่าวนักดาราศาสตร์ได้์ใช้ดาวกลุ่มนี้เป็นเทียนมาตรฐานสำหรับในการหาระยะทางของกลุ่มดาวทรงกลม แล้วก็เนื่องจากว่าดาวในกลุ่มนี้แก่เท่าไรนักดาราศาสตร์ยังคงใช้ศึกษาเล่าเรียนกลไกทางเคมีของดาวฤกษ์แก่ด้วย ดาวต้นแบบของดาวแปรแสงสว่างนี้ชื่อ อาร์ อาร์ ไลรี อยู่ในกรุ๊ปดาวพิณ
1.3 อาร์ วี ทอรี (RV Tauri) เป็นดาวยักษ์ใหญ่สีเหลืองการแปรเปลี่ยนแสงสว่างของดาวกลุ่มนี้มีต้นเหตุจากยุบแล้วก็ขยายตัวของดาวเหมือนกัน การยุบรวมทั้งขยายตัวยังมีผลให้ประเภทสเปคตรัมเปลี่ยนแปลงด้วยเวลาที่ดาวมีความสว่างสูงที่สุดดาวจะมีสเปคตรัมจำพวก F หรือ G ufabet ส่วนมีความสว่างต่ำที่สุดจะมีสเปคตรัมจำพวก K หรือ M คาบการแปรเปลี่ยนแสงสว่างระหว่าง 30 ถึง 150 วัน สามารถแบ่งเป็นกลุ่มย่อย 2กรุ๊ปเป็น RVA รวมทั้ง RVB ดาวต้นแบบของดาวแปรแสงสว่างจำพวกนี้เป็น อาร์ วี ทอรี อยู่ในกรุ๊ปดาวโคซึ่งถูกศึกษาค้นพบโดย ไลเดีย เซแรสกี้ (Lydia Ceraski) ในปี ค.ศ 1907 มีคาบการเปลี่ยนแสงสว่างราว 78.5 วัน ความสว่างเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ 9.5 ถึง13.5
1.1.4 ดาวแปรแสงสว่างคาบยาว (Long-Period Variables : LPVs) เป็นดาวที่มีต้นแบบการยุบขยายตัวที่มีอุที่ภูเขามิค่อนข้างเย็น เมื่อไตร่ตรองไดอะเอ็งรมของแฮร์ทสปรุง-รัสเซลล์แล้ว ดาวแปรแสงสว่างกลุ่มนี้จะอยู่นอกแถบไม่เสถียร (Instability Strip) คาบการเปลี่ยนแปลงแสงสว่างของดาวมีตั้งแต่ว่าหลักเดือนถึงมากมายว่าหนึ่งพันปี ส่วนมากแล้วเป็นดาวยักษ์แดง หรือดาวยักษ์อะซิมโทว่ากล่าวกซึ่งเป็นดาวยักษ์ใหญ่สีแดง มีกำลังส่องสว่างในตอน 10–10,000 เท่าของกำลังส่องสว่างของดวงตะวัน ประเภทสเปกตรัม M S หรือ C และก็เมื่อศึกษาเล่าเรียนสเปกตรัมของดาวกลุ่มนี้พบว่ามีแถบมืดและก็แถบสว่างของโมเลกุลที่ชัดสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อยได้ดังต่อไปนี้
ดาวแปรแสงสว่างประเภทไมร่า (Mira Type) ufabet ดาวแปรแสงสว่างจำพวกนี้โดยมากเป็นดาวยักษ์แดง ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของตอนพัฒนาการของดาวฤกษ์มวลปานกลาง ก่อนเปลือกของดาวจะฟุ้งกระจายเปลี่ยนเป็นเนบิวลาดาวนพเคราะห์รวมทั้งศูนย์กลางเป็นดาวแคระแกร็นห์ขาวสุดท้าย ดาวแปรแสงสว่างกลุ่มนี้มีคาบการเปลี่ยนแปลงแสงสว่างมากยิ่งกว่า 100 วันตอนขยายตัวสูงที่สุดมีรัศมีโดยประมาณ 330 เท่าของรัศมีของพระอาทิตย์ มีอุณหภูมิอยู่ในตอน 1,900 ถึง2,600 เคลวิน มีการเปลี่ยนแปลงค่าความสว่างราว 6
ดาวแปรแสงสว่างแบบครึ่งหนึ่งเป็นประจำ(Semiregular Variables) เป็นดาวยักษ์ หรือดาวยักษ์ใหญ่ที่มีจำพวกสเปกตรัมตอนกึ่งกลางหรือในที่สุดดาวแปรแสงสว่างจำพวกนี้ใช้เวลาการเปลี่ยนแปลงแสงสว่างออกจะนาน โดยมีคาบการเปลี่ยนแสงสว่างตั้งแต่20 ถึง 2,000 วัน บางครั้งบางคราวรูปร่างของแผนภูมิแสงสว่างมีความต่างกันในแต่ละคาบ มีการเปลี่ยนแปลงค่าความสว่างราวๆ 1–2 แบบอย่างของดาวแปรแสงสว่างกลุ่มนี้เป็น ufabet ดาวแอนทาเรส(Antares) ดาวบีเทลจุส (Betelgeuse)
1.2 ดาวแปรแสงสว่างแบบปะทุหรือแบบเปลี่ยนที่ร้ายแรง (Eruptive or Cataclysmic Variables) เป็นดาวแปรแสงสว่างที่เปลี่ยนความสว่างแบบกระทันหันที่เกิดขึ้นมาจากการปะทุของดาวเนื่องมาจากปัจจัยภายในตัวดาว ufabet ดาวแปรแสงสว่างจำพวกนี้มีความมากมายหลากหลายประเภท ครอบคลุมตั้งแต่การยืนขึ้นแรง การผุดที่ผิวของดาวที่เป็นพวกของระบบดาวคู่ การปะทุของดาวเล็กแกร็นขาว หรือการปะทุของดาวที่สิ้นอายุขัยสามารถแบ่งได้เป็นดังต่อไปนี้
1.2.1 ซูเปอร์โนวา (Supernovae) เป็นการเปลี่ยนขั้นตอนสุดท้ายของชีวิตดาวฤกษ์ เป็นการปะทุอย่างหนักของดาวฤกษ์มวลมากมายเมื่อสิ้นอายุขัยหรือการปะทุของ ดาวแคระแกร็นขาวที่เป็นพวกของระบบดาวคู่ซึ่งนักดาราศาสตร์ได้ซูเปอร์โนวาตามสเปกตรัมที่ได้จากการสังเกตการณ์ ที่สามารถแบ่งเป็น 2 จำพวก
ซูเปอร์โนวาจำพวกที่ 1 (Supernova type I) ซูเปอร์โนวาจำพวกนี้ไม่ปรากฎเส้นกลืนไฮโดรเจนในสเปกตรัม สามารถแบ่งย่อยเป็น 3 เป็นจำพวก Ia Ib Icโดยที่ซูเปอร์โนวาจำพวก Ia เป็นการระเบิดข้างในระบบชิ้นส่วนของวัตถุคู่ที่ดวงหนึ่งเป็นดาวแคระแกร็นขาวอีกดวงเป็นดาวฤกษ์ เมื่อดาวเล็กแกร็นขาวดูดมวลสารจากดาวฤกษ์อีกดวงที่เป็นพวกในระบบดาวคู่
ตามหลักทฤษฎี ดาวเล็กแกร็นขาวไม่สามารถที่จะมีมวลได้มากเกินกว่าค่าหนึ่งเรียกว่าข้อจำกัดจันทรเศขร (Chandrasekhar limit)เป็น1.38เท่าของมวลดวงตะวัน ufabet ภายหลังที่ดาวแคระแกร็นขาวได้ยั่วยวนใจมวลสารกระทั่งมีมวลเกินค่าข้อจำกัดแล้วดาวเล็กแกร็นขาวพวกนั้นไม่สามารถที่จะรักษาภาวะเดิมได้ก็เลยก่อให้เกิดสถานการณ์การยุบ นำมาซึ่งการทำให้อุณหภูมิ และก็ความดันมากขึ้นกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการรีบปฎิกิริยาฟิวชันคาร์บอนรวมทั้งออกสิเจนจนถึงแปลงเป็นเหล็ก ปฎิกิริยาฟิวชันที่เกิดขึ้นนี้เป็นแบบกระทันหัน แรงกดดันจากปฎิกิริยาฟิวชันนี้ชนะแรงโน้มถ่วงที่ยุบเข้ามา ทำให้มวลสารแล้วก็รังสีต่างๆถูกปล่อยออกมาทำให้ผู้มองเห็นเป็นเศษซากการปะทุเกิดขึ้นในระบบดาวคู่ ส่วนซูเปอร์โนวาประเภท Ib Ic มีสาเหตุมาจากการยุบของแกนของดาวขนาดใหญ่คล้ายกับซูเปอร์โนวา Type II แต่ว่าซูเปอร์โนวาสองประเภทนี้มีการสูญเสียเปลือกชั้นนอกเหตุเพราะลมระหว่างดวงดาวเป่าก่อนที่จะแกนจะสลายและก็ระเบิดเป็นซูเปอร์โนวา

